ถนนคนเดินนครพนม

คำอธิบาย


(สามารถคลิกอ่านคำอธิบายของกินของใช้ได้ที่"คำอธิบาย")

ถนนคนเดินนครพนมจัดขึ้นบริเวณถนนสุนทรวิจิตรเลียบริมแม่น้ำโขงตลอดสาย ถ้าอยู่หน้าอาคารตลาดอินโดจีน แล้วหันหน้าไปทางวัดโอกาสหรือหอนาฬิกา อาคารตลาดอินโดจีนจะอยู่ซ้ายมือ เมื่อเราเดินพ้นอาคารไป จะมีซอยเล็ก(ที่ทะลุไปออกถนนศรีเทพได้) ถัดจากซอยเล็กนี้ไป ก็เป็นวัดโอกาส และตั้งแต่ถนนสุนทรวิจิตรเข้าเขตหน้าวัดโอกาส ถนนสายนี้จะปิดการสัญจรและกลายเป็นถนนคนเดินนครพนมทันที ตลอดเส้นทางของถนนคนเดินเป็นทางสายตรงอย่างเดียวตั้งแต่ต้นทางไปจนสุดทาง โดยแผงลอยทั้งหมดจะอยู่ริมถนนทั้งซ้ายและขวาของถนนคนเดิน และนับจากนี้ การอธิบายเส้นทางขอแบ่งเป็นสี่ช่วงด้วยกัน

เริ่มจากช่วงที่หนึ่ง ซ้ายมือเป็นวัดโอกาส ถัดไปจะเป็นศาลเจ้าพ่อหมื่น จากนั้นจะเป็นซอย(ที่ทะลุไปออกถนนศรีเทพได้)อีกซอย ส่วนทางขวาตลอดแนวเป็นลานจันทร์ส่องหล้าหรือลานคนเมือง(ที่ชาวนครพนมมาพักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำโขงกัน)

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงที่สองนั่นคือ เมื่อเดินผ่านซอย(ที่ทะลุไปออกถนนศรีเทพ)ทางซ้ายมือ ต่อไปก็เป็นตึกแถวบ้านเรือนของผู้คนตลอดแนว ซึ่งบางหลังก็เปิดหน้าร้านจำหน่ายสินค้า ขณะที่ขวามือช่วงที่สองเริ่มต้นด้วยสำนักงานออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ถัดไปเป็นอาคารท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว(หรือด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม) จากนั้นจึงเป็นลานกว้างริมแม่น้ำโขง แล้วตามด้วยบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลชั้นเดียว ซึ่งบ้านชั้นเดียวแถบนี้หลายหลังก็เปิดหน้าร้าน

ต่อมาก็เป็นช่วงที่สามบริเวณหอนาฬิกา โดยอาคารบ้านเรือนทางซ้ายมือจะหมดระยะลง แล้วกลายเป็นหอนาฬิกาแทน ขณะที่ด้านหลังหอนาฬิกาก็คือถนนศรีเทพที่ขนานกับถนนสุนทรวิจิตรมาตลอดและกำลังมาบรรจบกับถนนสุนทรวิจิตรหลังพ้นหอนาฬิกาไป ส่วนฝั่งถนนศรีเทพก็มีบ้านเรือนผู้คนอยู่อีกด้าน(ที่บางหลังก็เปิดหน้าร้านให้นักท่องเที่ยวเดินข้ามมาได้) แต่ถนนศรีเทพเองจะไม่มีแผงลอยเป็นถนนคนเดินใดๆ จากนั้นบ้านเรือนฝั่งถนนศรีเทพก็จะหมดระยะลง แล้วมีซอยของถนนเฟื่องนครเข้ามาบรรจบกับถนนสุนทรวิจิตรอีกสายเป็นสี่แยก กลับมาที่ถนนสุนทรวิจิตรอีกครั้ง เมื่อพ้นหอนาฬิกาไปแล้ว ซ้ายมือจะเป็นสี่แยกทันทีนั่นคือ มีถนนศรีเทพและถนนเฟื่องนครเข้ามาบรรจบกับถนนสุนทรวิจิตร ส่วนทางขวาของโซนหอนาฬิกายังเป็นบ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียลที่ยาวต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จากนั้นจึงเป็นลานโล่ง(ที่ทำเป็นตลาดประชารัฐหรือสินค้าโอทอป) หลังจากพ้นลานนี้ไป ก็กลับมาเป็นบ้านสไตล์โคโลเนียลชั้นเดียวอีกครั้ง

คราวนี้เมื่อพ้นสี่แยกไป ก็เข้าสู่ช่วงที่สี่ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย ถนนสุนทรวิจิตรช่วงนี้เป็นถนนคนเดินสายยาวที่สุดในบรรดาทุกช่วง โดยซ้ายมือเป็นบ้านเรือนผู้คน ขณะที่ทางขวามีทั้งบ้านสไตล์โคโลเนียลและบ้านตึกแถวปะปนกันตลอด สำหรับถนนคนเดินช่วงสุดท้ายจะสิ้นสุดเมื่อตึกแถวซ้ายมือมาหมดระยะตรงซอยของถนนลูกเสือที่เข้ามาบรรจบกับถนนสุนทรวิจิตรเป็นสามแยกนั่นเอง ส่วนบ้านเรือนทางขวาก็จะหมดระยะที่สามแยกนี้เช่นกันและหลังจากนี้ก็เป็นทางเดินริมน้ำอย่างเดียว ไม่มีบ้านเรือนใดๆตลอดริมแม่น้ำโขงแล้ว สำหรับบ้านเรือนทั้งสองฟากของถนนช่วงที่สี่ถือว่าให้การตอบรับดีเนื่องจากทั้งสองฟากเปิดหน้าร้านหลายหลัง

คราวนี้มาพูดถึงแผงลอยบ้าง สำหรับแผงลอยจะอยู่ริมถนนคนเดินทั้งสองฟากตลอดทั้งสี่ช่วง โดยประเภทแผงลอยก็มีโต๊ะพับสแตนเลส รถเข็น รถพ่วงข้าง ขาโต๊ะเตาแก๊ส กระบะเปิดท้าย เสื่อน้ำมัน ผ้าบลูชีท ลังพลาสติก ขาโต๊ะแผงลอย ราวแขวน ลังพลาสติก เสื่อ รถโมบาย ชั้นวาง แผ่นหญ้าเทียม ตะแกรง โต๊ะไม้ สแตนด์ แบกะดิน และผ้าฟาง

คราวนี้ก็มาถึงข้าวของในแต่ละช่วงกัน เริ่มจากช่วงที่หนึ่งมีอาหารตุรกี ผลไม้หั่นชิ้น ของนึ่ง เครื่องดื่มแช่เย็น ขนมไทย เบเกอรี่ อาหารอีสาน ของกินเล่น ของทอด ของปิ้งย่าง ของยำ อาหารเพื่อสุขภาพ ตุ๊กตา เสื้อผ้าชายหญิง ชุดชั้นใน ไอศกรีม อาหารทั่วไป ของใช้ในบ้าน กระเป๋า อาหารญี่ปุ่น น้ำผลไม้ปั่นและคั้น ชากาแฟ ขนมจีนน้ำยา ของเล่นเด็ก เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าสูงวัย หมวก สินค้ามือสอง ผลไม้ เครื่องสำอาง อุปกรณ์มือถือ สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าพื้นเมือง รองเท้าและเสื้อผ้ามือสอง

ช่วงที่สองมีเสื้อผ้าชายหญิง อาหารเพื่อสุขภาพ เสื้อผ้าพื้นเมือง ตุ๊กตา อาหารทั่วไป ของใช้ในบ้าน กระเป๋า รองเท้า ของกินเล่น ของปิ้งย่าง สินค้ามือสอง เครื่องสำอาง อาหารอีสาน ขนมไทย ของทอด สายตา ขนมขบเคี้ยว แมลงทอด เครื่องดื่ม น้ำหอม ของใช้ส่วนตัว ของเล่นเด็ก อุปกรณ์มือถือ หมวก ของนึ่ง เสื้อผ้าเด็ก นาฬิกา ของยำ สัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เบเกอรี่ อาหารญี่ปุ่น เครื่องหนัง เครื่องแต่งกาย สินค้าแฟนซี เครื่องเขียน ผลไม้เชื่อมแห้ง และขนมปัง

ช่วงที่สามบริเวณหอนาฬิกามีขนมไทย ของกินเล่น น้ำผลไม้ อาหารญี่ปุ่น เสื้อผ้าสตรี อุปกรณ์มือถือ ผลไม้ชิ้น ของปิ้งย่าง กระเป๋า อาหารทั่วไป เครื่องแต่งกายสตรี สินค้าโอทอป อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สินค้าแฟนซี เครื่องประดับ เสื้อผ้าสูงวัย เสื้อผ้าเด็ก ของนึ่ง อาหารตามสั่ง ของใช้ส่วนตัว เครื่องหนัง ก๋วยเตี๋ยว รองเท้า นาฬิกา ขนมไทย สายตา ต้นไม้ประดับ เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ขนมปัง และหมวก

แล้วก็มาถึงช่วงที่สี่กับสินค้าทั้งหมดดังนี้ อาหารเวียดนาม เหล้าเบียร์ เครื่องดื่มเย็น ของกินเล่น ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว ขนมไทย เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ปั่นและคั้น อาหารอีสาน ของกินเล่นนำเข้า อาหารตามสั่ง เบเกอรี่ อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารทั่วไป เปิดหมวก ต้นไม้กระถาง เสื้อผ้าชายหญิง ของทอด หมวก รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องครัว สายตา เสื้อผ้าเด็ก กระเป๋า เครื่องประดับสตรี งานบริการ เสื้อผ้าพื้นเมือง เครื่องแต่งกาย ของเล่นเด็ก อาหารญี่ปุ่น ตุ๊กตา สินค้ามือสอง อุปกรณ์มือถือ น้ำหอม เสื้อที่ระลึกนครพนม นาฬิกา ของกินเล่นอินโดนีเซีย และผลไม้แช่อิ่ม

อนึ่ง ถนนคนเดินแห่งนี้จัดขึ้นทุกเย็นวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ โดยพ่อค้าแม่ค้าเริ่มจัดแผงราวห้าโมงเย็นเป็นต้นไป แต่ช่วงคึกคักของผู้คนบนถนนจะอยู่ราวหนึ่งทุ่มตรง



เขาบอก“เย็นย่ำก็ฮัมเพลง” แต่เรายังไม่ขอฮัมเพลงอะไรทั้งนั้น เพราะอยากไปเลาะถนนคนเดินมากกว่า จุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลริมแม่น้ำโขง ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์กแบบทูอินวันเลยก็ว่าได้ ตอนนี้แสงตะวันกำลังลาลับ อากาศเย็นเข้ามาแทนที่ นักท่องเที่ยวเริ่มเฮโลมาแล้ว
- ทีมงานของแบ่งถนนคนเดินออกเป็นสี่ช่วงด้วยกัน เริ่มจากช่วงที่หนึ่งบริเวณหน้าวัดโอกาสก่อน ซึ่งช่วงแรกนี้เป็นส่วนต่อขยาย เลยกลายเป็นถนนคนเดินน้องใหม่ ส่วนช่วงที่เหลือมีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแล้ว
ซ้ายบน – ผู้คนเดินดูข้าวของกันขวักไขว่บริเวณหน้าวัดโอกาส ตลอดถนนมีแผงลอยให้เราชิมช้อปใช้ไม่หยุดหย่อน
- เริ่มกันที่ของบริโภคก่อน แล้วต่อด้วยของใช้
ขวาบน – รถเข็นคันนี้มาแบบแพ็กคู่ คือปอเปี๊ยะแบบสดและแบบทอด ส่วนอีกเมนูหนึ่งคือ ขนมจีนน้ำยา ซึ่งทั้งสามหม้อที่เห็นมีน้ำยากะทิ น้ำยาป่า และแกงไตปลา
ซ้ายกลางบน – เจ้านี้เป็นหน้าที่ของเคบับไก่ชีส
ขวากลางบน – พ่อค้ามุมนี้มีไส้กรอกอีสานกับบาร์บีคิวไก่ร้อนๆมาเรียกน้ำย่อย
ซ้ายกลางล่าง – แม่ค้ามีข้าวเหนียวหมูปิ้งพร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษนั่นคือ น้ำจิ้มปลาร้า
ขวากลางล่าง – รถเข็นคันต่อมามีทาโกยากิสามไส้มาให้เลือกคือ หมึก ปูอัด และฮอตดอก
ซ้ายล่าง – เรามาเจอรถเครื่องดื่มริมกำแพงวัดหนึ่งร้าน คนขายบนรถมีเครื่องดื่มดังนี้ กาแฟเย็น ชาเขียว ชามะนาว ชาดำเย็น โกโก้ ช็อกโกแลต นมสด แดงมะนาวโซดา และน้ำผึ้งมะนาว ใครอยากได้แบบเย็นหรือแบบปั่นก็บอกพ่อค้าไป ส่วนน้ำผลไม้ปั่นมีกล้วยหอม กีวี่ สตรอวร์เบอร์รี แตงโม มะพร้าว มะนาว แอปเปิลเขียว แคร์รอต แอปเปิลแดง ส้ม และแคนตาลูป
ขวาล่าง – ร้านนี้มีเสื้อผ้าวัยรุ่นสาวๆมาจัดจำหน่าย ทั้งเสื้อบวกเอี๊ยมกระโปรง เดรส กระโปรง กางเกง เสื้อยืด รวมทั้งกระเป๋าทรงการ์ตูนน่ารักๆ เสื้อลูกไม้ของคนสูงวัยก็มีด้วย




ต่อเนื่องกับถนนคนเดินช่วงแรก
ซ้ายบน – แผงนี้มีผ้าถุงทอมือ ผ้าถุงหมักโคลน และเสื้อพื้นเมืองมาเป็นตัวเลือก
ขวาบน – ราวแขวนร้านนี้จำหน่ายเสื้อผ้าเที่ยวนอกบ้านของเด็กๆ มีครบทั้งชายหญิง
ซ้ายกลางบน – ร้านนี้อยู่สุดทางของช่วงหนึ่งข้างหัวมุมกำแพงศาลเจ้าพ่อหมื่น วัยรุ่นสองคนมีเสื้อผ้าและหมวกของผู้หญิงมาช่วยต่อยอดบุคลิกของสาวๆ
ขวากลางบน – ตลอดทางของถนนคนเดินมีของเล่นอยู่หลายร้าน สำหรับเจ้านี้มีรถแข่งที่โดดเด่นหลายไซส์ ที่เหลือเป็นฟิกเกอร์จากตัวละครภาพยนตร์ เช่น กัปตันอเมริกัน ธอร์ ทรานสฟอร์เมอร์ ไอรอนแมน คาร์ส แบทแมน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีของเล่นทั่วไปอีก เช่น ชุดตกปลา ปิกาจู ชุดทำกับข้าว ตัวต่อ ไดโนเสาร์ สุนัขงับนิ้ว ฯลฯ
- สำรวจช่วงที่หนึ่งพอเป็นกษัยแล้ว เราเข้าสู่ช่วงที่สองเลย
ซ้ายกลางล่าง – บรรยากาศของช่วงที่สอง ผู้คนยังเนืองแน่นไม่มีถอย
ขวากลางล่าง – เจ้านี้ประจำการอยู่ตำแหน่งนี้ตลอด ส่วนเมนูที่คุ้นเคยดีมีส้มตำปูปลาร้า ตำซั่ว ตำไทย ตำโคราช และตำป่า ทั้งนี้ยังมีหมูกระจกเป็นกับแกล้มด้วย
ซ้ายล่าง – ทั้งหมดในจานเหล่านี้คือไส้หมู ปอดหมู หัวใจหมู หัวหมู ตับหมู ปลาทอด และไก่ทอด
ขวาล่าง – ข้าวจี่ของป้ามีสองเวอร์ชั่นคือ ข้าวเหนียวขาวและดำ ส่วนอีกด้านเป็นไข่ปิ้งทรงเครื่อง




ไปชิมของกินช่วงที่สองต่อ
ซ้ายบน – แม่ค้ากำลังคลุกเคล้าส่วนผสมของขนม“ข้าวลืมผัว”อยู่
ขวาบน – หน้าบ้านหลังนี้เปิดจำหน่ายของกินต่างๆดังนี้ มะเขือเทศเชื่อมแห้ง มะพร้าวแก้ว กล้วยอบแห้งไม่ฉาบ(แบบจืดและแบบหวาน) รากบัวเชื่อม และน้ำรากบัว
ซ้ายกลางบน – รถเข็นคันนี้ขายขนมปังแท่งเสียบไม้และขนมปังปิ้งราดนมกับช็อกโกแลต
ขวากลางบน – ใครเดินผ่านไปผ่านมา ก็ต้องสะดุดตากับลังน้ำแข็งที่เปิดต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองเจ้านี้ รายการเครื่องดื่มเริ่มจากน้ำดื่มเนสต์เล น้ำดื่มพาราไดซ์ น้ำดื่มเพชร โออิชิรสฮันนีเลมอน ชเวปส์ สปอนเซอร์ โค้ก แฟนต้า เป๊ปซี่ ยาคูลท์ ดัชมิลล์โฟว์อินวันรสสตรอว์เบอร์รี ดัชชี่รสธัญหารถั่วและเม็ดบัว เบียร์ลีโอ เบอร์ดี้โรบัสดา น้ำส้มศิริชิน และกาโตะรสลิ้นจี่
- ตอนนี้เข้าสู่โหมดของใช้บ้าง
ซ้ายกลางล่าง – แผงนี้เน้นเสื้อบุรุษ แต่เสื้อสตรีก็มีผสมด้วย โดยทั้งหมดเป็นกางเกงขาสั้นและขาสามส่วน เสื้อโปโล เสื้อยืด และเสื้อกล้าม
ขวากลางล่าง – ราวแขวนกลางแจ้งของผ้ายีนส์แถบนี้มีทั้งขาสั้น ขายาว เสื้อเอี๊ยม และเสื้อคลุม
ซ้ายล่าง - เจ้านี้จัดเต็มกับรองเท้าชายหญิงสารพัดแบบ เช่น รองเท้าผ้าใบ
รองเท้าแตะแพลตฟอร์ม รองเท้าคัทชู รองเท้าบัลเลย์ รองเท้าแตะแบบสวมและแบบหนีบ รองเท้าส้นตึก ฯลฯ
ขวาล่าง – ซ้ายมือของปากทางช่วงที่สองจะเห็นแผงผ้าปูบนถนนอยู่สองสามเจ้าที่จำหน่ายเสื้อผ้าผู้หญิง สนใจก็เข้าไปเลือกชมได้



ยังเตร็ดเตร่ในช่วงที่สองอยู่ ไม่ได้ไปไหน
ซ้ายบน – พ่อค้าจำหน่ายตุ๊กตาขนนิ่มจากการ์ตูนและตัวละครดังเรียงรายรอบร้านหลายเรื่อง เช่น หมีพูห์ แม่มดจากสโนไวต์ เอลซ่าจาก Frozen มิกกี้เมาส์ มู่หลาน โพจากเทเลทับบี้ สติทช์จาก Lilo & Stich ยูนิคอร์น มินเนียน บัซและวู้ดดี้จาก Toy Story ลิตเติลเมอร์เมด ปลานีโมจาก Finding Nemo โกโก โทมาโกะและฮันนี่ เลมอนจาก Big Hero Six ฯลฯ
ขวาบน – ร้านนี้นำเข้าปากกาและกระเป๋าแฟนซีจากญี่ปุ่นเต็มร้านเลย
ซ้ายกลาง – โต๊ะนี้มีน้ำหอมเกรดเอมาฝาก
ขวากลาง – ซุ้มนี้สำหรับคนรักสัตว์ มีทั้งอุปกรณ์การเลี้ยง อาหารสัตว์ และสัตว์เลี้ยง เช่น กระต่าย เม่นแคระ ฯลฯ
กลาง – ตอนนี้ก็เข้าสู่โซนหอนาฬิกาแล้ว จุดนี้เป็นสี่แยกที่มีแต่ความอลหม่านของนักท่องเที่ยวไม่แพ้ช่วงอื่น ส่วนแผงลอยก็แน่นเอี้ยดเหมือนเคย (จากภาพ ตำแหน่งของกล้องตอนนี้คือมองหันกลับไปยังเส้นทางที่เราเพิ่งเดินผ่านมาจากช่วงที่สองตรงอักษร www.kar ส่วนตัวอักษร ernt ก็คือถนนศรีเทพที่กำลังจะเข้ามาบรรจบตรงสี่แยกนี้ และถนนเฟื่องนครก็อยู่ด้านหลังแผงลอยไปทางอักษร com นั่นเอง)
- เริ่มจับจ่ายของใช้ก่อน 
ซ้ายล่าง – บริเวณบ้านสไตล์โคโลเนียลชั้นเดียวมีเปิดหน้าร้านหลายห้อง สำหรับห้องนี้จำหน่ายเสื้อผ้าสตรีและชุดคลุมกิโมโน
ขวาล่าง – แผงลอยนี้อยู่ตรงสี่แยกพอดี แม่ค้าร้านนี้เน้นสินค้าหลากหลาย เริ่มตั้งแต่ต่างหู กระเป๋าคาดเอว แหวนทอง นาฬิกา ที่คาดผม ยางรัดผม กิ๊บติดผม โบว์มัดผม หมวก สินค้าที่ระลึกจากศิลปินเกาหลี เข็มขัด พวงกุญแจ กระเป๋าห้อย ริชแบนด์ เข็มกลัด สร้อยเงิน สร้อยทอง กระเป๋าสตางค์ ไปจนถึงกระเป๋าใส่เศษเหรียญ




เล่าสู่กันฟังบริเวณหอนาฬิกาต่อ
ซ้ายบน – มุมลานกว้างนี้เป็นตลาดประชารัฐสำหรับสินค้าโอทอปต่างๆ มีชาวบ้านนำเสื้อพื้นเมืองและผ้าถุงสำเร็จรูปมาจัดจำหน่ายหลายแผง
ซ้ายกลางบน – เจ้านี้มีรองเท้าแฟนซีลายการ์ตูนน่ารักๆมานำเสนอ
ขวาบน – ลุงนำสินค้าเทคโนโลยีต่างๆมาประดับเต็มแผงรถ คร่าวๆในร้านทั้งหมดก็มีถ่านกระดุม อุปกรณ์เพิ่มช่องเสียบไฟในรถยนต์ ขาตั้งกล้องมือถือ ตัวจับมือถือสำหรับเล่นเกม กล่องท้ายรถมอเตอร์ไซค์ จอยสติ๊กสำหรับเกมมือถือ ลำโพงพกพา โรลเลอร์เบลด เมมการ์ด แฟลชไดรฟ หูฟังไร้สาย ที่ยึดมือถือขณะขับรถ หลอดไฟ LED ปลั๊กพ่วง ไม้เซลฟี่ Stunt Scooter และสเก็ตบอร์ด
ซ้ายกลางล่าง – พ่อค้าจำหน่ายของเล่นนำเข้าจากญี่ปุ่นมากมาย เช่น บานาสเปียร์ของไรเดอร์ไกมุ เขี้ยวพิฆาตของ Gigaman พิณของพรีเคียร์ หัวเข็มขัดของโกเซเจอร์ ฟิกเกอร์ของ Evangelion โมเดลรถ ยานอวกาศ ฯลฯ 

ขวากลาง – แม่ค้ากำลังย่างเบคอนพันเห็ดเข็มทองอย่างหอมกรุ่นเลย
ซ้ายล่าง – ป้ากับผู้ช่วยอีกคนพัลวันกับการเทน้ำกะทิใส่ครก ปิดฝา แล้วแงะขนมครกร้อนๆใส่ใบตองอย่างแข็งขัน นาทีนี้ต้องแข่งกับเวลาจริงๆ
ขวาล่าง – รถไอศกรีมซันเดย์คันนี้มีรสนม ช็อกโกแลต และทูโทน ส่วนท็อปปิ้งในกระปุกด้านหน้าเลือกได้สองอย่าง เช่น โกโก้ครันช์ ช็อกโกแลต เยลลี่ เรนโบว์ แคนตาลูป แซนด์วิชคุกกี้ ฯลฯ แต่ถ้ามีใจให้สามอย่าง คิดเพิ่มเล็กน้อย สำหรับร้านนี้มีโคนเล็ก โคนใหญ่ และถ้วยเป็นภาชนะ




เราไปชมบ้านที่เปิดหน้าร้านบริเวณหอนาฬิกาสักสองเจ้า
ซ้ายบน – ร้าน"เตี๋ยวเต็มโต๊ะ 2"อยู่ตรงสี่แยกพอดี รายการอาหารก็เริ่มจากก๋วยเตี๋ยว แจ่วฮ้อน ลาบไก่งวง ใบเหลียงผัดไข่ ยำหัวปลีกุ้งสด กุ้งอบวุ้นเส้น คั่วกลิ้งเนื้อ หมูสะเต๊ะ ต้มยำปลาโจก ผัดไทย ผัดฉ่าปลาคัง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ไปจนถึงอาหารจานเดียว (จากภาพ ร้านนี้มีบรรยากาศติดแอร์ด้านในและมุมลมโกรกสบายๆนอกร้านให้เลือก)
ขวาบน – ตบท้ายโซนหอนาฬิกาด้วยเมนูของกินจากร้าน"น.นม"บริเวณถนนศรีเทพดังนี้ หมวดขนมปังปิ้งพร้อมท็อปปิ้งมีเนย-นมข้นหวาน เนย-นมข้นหวาน-น้ำตาล เนย-สังขยาใบเตย เนย-นมข้นหวาน-โอวัลติน เนย-แยมสตรอว์เบอร์รี เนย-แยมสับปะรด และเนย-หมูหยองพริกเผา รวมทั้งขนมปังปิ้งภูเขาไฟและขมมปังปิ้งสังขยา-ลาวา ขณะที่ขนมปังนึ่งจิ้มกับสังขยาก็มี สำหรับหมวดอื่นๆยังมีเกี๊ยวซ่า เฟรนช์ฟรายส์ ข้าวไข่เจียว ข้าวไข่ดาว และแหนมเนือง
กลาง – ตอนนี้ทีมงานพาทุกคนมาถึงถนนคนเดินช่วงที่สี่แล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งถนนที่เดินเพลินจนลืมดูเวลาไปเลย ยิ่งโซนนี้โดดเด่นเรื่องของใช้ด้วย ผู้คนเลยอลังการเต็มสองฟากอย่างที่เห็น แต่ของกินก็น่าสนใจไม่แพ้กัน นาทีนี้ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆว่าจะเริ่มจากแผงไหนก่อน
- หมวดสินค้าอุปโภคมาก่อนเลยแล้วกัน
ซ้ายกลาง – แผงลอยเสื้อผ้าสตรีชนะเลิศสำหรับถนนช่วงนี้ เสื้อผ้ามีให้สวมใส่ไม่ซ้ำวันตลอดปีแน่นอน ตัวอย่างเช่นแผงนี้ที่มีวัยรุ่นหยิบจับอยู่หน้าร้าน เสื้อแขนสั้นแขนยาวดีไซน์เก๋ๆของแม่ค้ามากันหลายแบบทีเดียว
ขวากลาง – นอกจากแผงลอยริมทาง เสื้อผ้าของสาวๆตามหน้าร้านก็มีอีกเหลือจะกล่าว สำหรับร้านนี้มีให้เลือกทั้งในและนอกร้าน เช่น กางเกงขาสั้นและขายาว เสื้อเดรส เสื้อ(แขนกุด แขนสั้น และแขนยาว) เสื้อสายเดี่ยว เสื้อเกาะอก รวมทั้งเสื้อผ้าที่กองอยู่บนเสื่อน้ำมันด้วย ส่วนแม่ค้าพร้อมให้คำแนะนำอยู่แล้ว
ซ้ายล่าง – เต็นท์นี้เป็นเสื้อลายแนวๆของวัยรุ่นชายบ้าง รองเท้าผ้าใบก็มีเช่นกัน
ขวาล่าง – แว่นตาแฟชั่นได้รับกระแสตอบรับดีเลย เห็นคนล้อมวงหน้าร้านเพียบ




ทางตรงอย่างเดียว เดินยังไงก็ไม่หลง
ซ้ายบน – สำหรับความงดงามบนใบหน้าหนีไม่พ้นสินค้าต่างๆบนโต๊ะนี้เป็นแน่ อันได้แก่ บลัชออนเนื้อแมตต์ ดินสอเขียนคิ้ว ลิปทินต์เนื้อแมตต์ ครีมแตงโมเนียนใส ลิปกลอส คุชชั่นเนื้อครีมแมตต์ ครีมผสมไพรเมอร์ แป้งผสมรองพื้น ขนตาปลอม ครีมรองพื้นสูตรควบคุมความมัน ลิปสติกเนื้อแมตต์ และพาเลตต์อายแชโดว์
ซ้ายกลางบน – พ่อค้าหนุ่มซุ้มนี้มีเคสมือถือลายเรียบๆและแบบแฟชั่น ฟิล์มกระจกนิรภัย สายยูเอสบี ตัวชาร์จ หูฟัง และอแดปเตอร์
ขวาบน – กว่าจะฝ่าวงล้อมเข้าไปดูสินค้าแผงนี้ ต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ทีเดียว หมวดแผงรองเท้าช่วงที่สี่มีอยู่หลายเจ้าเช่นกัน แต่ทุกร้านมีคนมุงหยิบจับตลอด
ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่พกดวงมาด้วย ตัวอย่างรองเท้าก็เช่น รองเท้าคัทชู รองเท้าบัลเลต์ รองเท้าส้นตึก รองเท้าแตะแบบหนีบและแบบสวม รองเท้าผ้าใบ ฯลฯ
ซ้ายกลางล่าง – ทุกครั้งที่มาถนนคนเดินแห่งนี้ ทีมงานเห็นถ้วยโถโอชามโต๊ะนี้ตลอด มีทั้งจานและชามขนาดต่างๆ จานรอง และถ้วยขนาดเล็ก
- หมวดของใช้เดินกันพอชื่นใจแล้ว เราไปเช็กอินสินค้าคลายหิวบ้าง
ขวากลาง – แม่ค้าเจ้านี้กำลังปรุงก๋วยจั๊บญวน
ซ้ายล่าง – ส่วนแผงนี้จำหน่ายแกงเห็ดและแหนมคลุก
ขวาล่าง – ข้าวเกรียบปากหม้อร้านนี้ประยุกต์ได้หลายเมนู เริ่มตั้งแต่แบบนิ่ม แบบไข่ดาว แบบไข่เจียว และแบบแผ่นข้าวเกรียบ



 

กำลังเอ้อระเหยกับบรรยากาศอยู่เลย ไม่อยากให้รีบจบ
ซ้ายบน – บ้านนี้เปิดหน้าร้านเป็นอาหารทางเลือกอีกเจ้า โต๊ะนี้มีเต้าหู้ขาวทอด ข้าวมันไก่ ข้าวคลุกกะปิ น้ำเต้าหู้ เต้าฮวยร้อน และหมูย่าง รวมทั้งอาหารเวียดนามอย่างบั๋นดุ๊กและแบ๋นแต๋พร้อมน้ำจิ้มต่างรสชาติให้กินคู่กัน
ขวาบน – หมวดเบเกอรี่สำหรับผู้ที่รักขนมแนวนี้ เริ่มจากเครปเย็นหน้าต่างๆ(คือ ฝอยทอง สตรอว์เบอร์รี บราวน์นี โอริโอ ช็อกโกแลตผสมกล้วย และช็อกโกแลตชิพ) ส่วนขนมแนวอื่นยังมีชิฟฟอนมะพร้าว ชิฟฟอนนมสด ชิฟฟอนมันม่วง ชิฟฟอนกล้วย เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กนมสดฝอยทอง เค้กนมสดมะพร้าวอ่อน เค้กส้มหน้านิ่ม คาราเมลคัสตาร์ดเค้ก บราวน์นี่ และบลูเบอร์รีชีสพาย
ซ้ายกลางบน ป้ายึดทำเลเล็กๆแต่เพียงผู้เดียวทำเมี่ยงคำไป จำหน่ายเมี่ยงคำไป
ขวากลางบน – แม่ค้าคั้นน้ำส้มใส่ขวดแช่เย็นแบบอุตลุดจริงๆ
ซ้ายกลางล่าง – หน้าบ้านหลังนี้ตั้งชั้นวางสินค้ามากมาย ส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน เวียดนาม และลาว โดยมีบางอย่างมาจากไทย สำหรับสินค้าทั้งหมดมีเนื้อขนุนอบแห้ง บิสกิตแท่งยาว(ที่มีรสแคนตาลูป ส้ม และสตรอว์เบอร์รี) เกาลัดคั่วกะเทาะเปลือก ไมโลคิวบ์ เกาลัดอบ ปลาเส้น มันฝรั่งทอดกรอบแผ่นบาง(ซึ่งมีรสซาวครีมและหัวหอม รสชีส รสออริจินอล และรสบาร์บีคิว) ขนมข้าวโอ๊ตอัดแท่ง บ๊วยหวาน สาหร่ายทะเลปรุงรส ขนมช็อกโกแลตทำเอง ช็อกโกแลตบอล ลูกอม กาแฟลาวทรีอินวัน(โดยมีรสออริจินอล รสเอสเพรสโซ และรสเทอร์โบ) กาแฟชะมดเวียดนามสำเร็จรูป กาแฟ House Blend และช็อกโกแลตเคลือบเวเฟอร์
ขวากลางล่าง – ร้าน"ห.นาฬิกา"มีวัยรุ่นกับนักท่องเที่ยวเข้ามาดื่มกินและนั่งสรวลเส(ในบรรยากาศสบายๆพร้อมดนตรีสดขับกล่อม) เรียกว่านั่งจนล้นมานอกร้านเลย เมนูที่ขาดไม่ได้คือ เบียร์และเหล้า รวมทั้งมิกเซอร์(ได้แก่ น้ำอัดลม โซดา และน้ำแข็ง) นอกจากนี้ยังมีอาหารให้ลิ้มลองด้วย ตัวอย่างพร้อมเสริฟคร่าวๆก็เช่น ต้มแซ่บกระดูกหมู
ยำถั่วพู ต้มเล้ง ยำไส้ตัน ต้มจืด ไข่น้ำ ต้มยำปลาน้ำโขง ยำแหนม ข้าวผัดแหนม หอยแครงลวกจิ้ม หมึกผัดไข่เค็ม ผัดคะน้าหมูกรอบ หมึกมะนาว ผักบุ้งไฟแดง ยำเอ็นแก้ว ปลาผัดฉ่า คั่วกลิ้งเนื้อ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ผัดเผ็ดกบ ยำคะน้ากุ้งสด แหนมซี่โครง ข้าวผัดปู ฯลฯ
ซ้ายล่าง - ร้านนี้เปิดหน้าร้านขายอาหารในบ้านทรงโคโลเนียล และหนึ่งในเมนูขึ้นชื่อของร้านก็คือ ราดหน้าเส้นทอด เป็นการนำเส้นลงผัดก่อน จากนั้นตีไข่ตาม แล้วทอด สุกแล้วก็หั่นเป็นแผ่นใส่จาน ปิดท้ายด้วยการเทน้ำราดหน้าก่อนเสริฟแบบร้อนๆ
ขวาล่าง – และอีกหนึ่งประเพณีของถนนคนเดินส่วนใหญ่ก็คือมุมถ่ายรูปชิคๆ ซึ่งลานถ่ายรูปของถนนคนเดินแห่งนี้อยู่บริเวณริมโขงช่วงที่สี่และมีหลายมุมให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพตามใจปรารถนา (จากภาพ เนื่องจากในอดีต ชาวนครพนมกับชาวเวียดนามมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน คำว่า“ซินจ่าว”ในภาษาเวียดนามที่แปลว่า“สวัสดี”จึงนำมารวมเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของมุมที่ระลึกด้วยนั่นเอง)

TODAY THIS MONTH TOTAL
213 4204 253422
Copyright : 2018 KarnDernTang.com ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาในเว็บไซต์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกโดยไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทรับทำเว็บไซต์ Design By cw.in.th

Scroll To Top