งานวัดทองผาภูมิ

คำอธิบาย


(สามารถคลิกอ่านคำอธิบายของกินของใช้ได้ที่"คำอธิบาย")

งานวัดทองผาภูมิจัดขึ้นในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตลอด 5 วัน 5 คืน ณ วัดทองผาภูมิ

โดยด้านขวาบริเวณหน้าประตูวัดมีห้องจำหน่ายตั๋ว(ของแต่ละวัน) จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยฉีกหางตั๋วก่อนเข้างาน ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายที่มาเที่ยวก็คือ ชาวพม่าที่ทำงานในจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะอำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี ส่วนคนไทยในงานมีไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ งานมหรสพที่มีบทบาทมากที่สุดก็คือลิเกพม่าจากเมืองย่างกุ้ง(ที่มาพร้อมแสงสีเสียงครบครัน) ทุกอย่างบนเวทีไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือการร้องเพลงล้วนเป็นภาษาพม่าทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเวทีมวยให้ดูอีกหลายคู่ด้วย

สำหรับเส้นทางเดินในงานเป็นทางตรงจากประตูวัดเข้าไปและมีแผงลอยประกบซ้ายขวาตลอดทาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขาโต๊ะแผงลอยกับราวแขวนอยู่ใต้เต็นท์ผ้าใบ แต่ก็มีรถเข็น สแตนด์โชว์สินค้า รถพ่วงข้างตามริมทางด้วย โดยระหว่างทางเดินสายตรงนี้ มีทางให้เลี้ยวซ้ายอยู่สามช่วง

คราวนี้เรามาสำรวจงานวัดแห่งนี้กัน เมื่อผ่านประตูวัดเข้ามาแล้ว เราจะเห็นแผงลอยตั้งแต่ทางเข้าเลย แต่ก่อนอื่น จะมีช่องทางให้เลี้ยวซ้ายเลียบกำแพงข้างประตูวัดช่วงแรกก่อน ซึ่งปากทางให้เลี้ยวซ้ายนี้จะมีแผงเสื้อผ้าสตรี เครื่องดื่ม เครื่องประดับสตรี ของเล่นเด็ก จากนั้นเดินเข้าไปไม่ไกลก็เป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็ก เช่น ปราสาทสไลเดอร์ ตุ๊กตาปูนพลาสเตอร์ระบายสี รถบังคับ ฯลฯ

คราวนี้มาเดินทางสายตรงช่วงแรกจนถึงสามแยก(ที่ให้เลี้ยวซ้ายที่สอง)กัน โดยฝั่งซ้ายเป็นของใช้ทั้งหมด ขณะที่ของกินอยู่ฝั่งขวาค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีของใช้ด้วย และข้าวของที่ขายช่วงนี้ทั้งหมดก็มีเสื้อผ้าชายหญิง เครื่องดื่ม ของกินเล่น ไอศกรีม เสื้อผ้าเด็ก ลูกอม รองเท้า เสื้อกันหนาว กระเป๋า ของเล่นเด็ก เครื่องแต่งกาย อาหารอีสาน ของปิ้งย่าง ขนมของฝาก ของใช้ในบ้าน นาฬิกา เครื่องครัว เครื่องดื่มแช่เย็น ของกินเล่น อาหารทั่วไป แมลงทอด งานบริการ เครื่องประดับสตรี เครื่องมือซ่อมบำรุง พระเครื่อง เครื่องนอน ดอกไม้พลาสติก เสื้อผ้ามือสอง ของนึ่ง ขนมไทย อุปกรณ์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสื่อบันเทิง ทั้งนี้ระหว่างทางของฝั่งขวายังมีมุมบริจาคทำบุญ โดยพระจะพูดผ่านไมโครโฟนเป็นภาษาพม่า

เมื่อผ่านทางเดินช่วงแรกมาถึงสามแยกแล้ว ถ้าเรายังไม่ตรงไป จะมีทางให้เลี้ยวซ้ายช่วงที่สอง ซึ่งภายในมีเวทีมวยอยู่ โดยข้างเวทีมวยก็มีแผงลอยของกินเล่นและเครื่องดื่มอีก

จากนั้นกลับไปที่ทางตรงช่วงที่สองจากสามแยกเมื่อสักครู่ ถ้าเราเดินตรงขึ้นไปแทน ทั้งสองฝั่งยังมีแผงขายของเหมือนเดิม ส่วนสินค้าที่ขายก็มีเสื้อผ้าชายหญิง ของเล่นเด็ก กระเป๋า ของนึ่ง เสื้อผ้าเด็ก ไอศกรีม ของกินเล่น ขนมจีนน้ำยา อาหารทั่วไป เครื่องนอน เครื่องมือซ่อมบำรุง เครื่องใช้ไฟฟ้า ของทอด และเครื่องดื่ม

จากนั้นก็มาถึงทางให้เลี้ยวซ้ายช่วงสุดท้าย โดยเราจะเห็นลานดินโล่งกว้างพร้อมกับไฮไลต์ประจำงาน นั่นคือ ลิเกพม่า ซึ่งตัวเวทีจะตั้งอยู่ทางซ้ายด้านในสุด ขณะที่พื้นดินตรงกลางเป็นลานกว้างหน้าเวทีเป็นที่นั่งนั่นเอง และถ้าเราหันหน้าเข้าหาเวที ยังมีเต็นท์ผ้าใบอยู่ทางซ้ายมือสุดของเวที ด้านขวาสุดของเวที และด้านตรงข้ามเวที(ซึ่งเป็นด้านหลังคนดู)ด้วย โดยโซนคนนั่งกับเต็นท์ผ้าใบทุกด้านจะเว้นระยะห่างเป็นทางเดินคั่นไว้

คราวนี้เรามาดูแต่ละด้านกันว่าขายอะไรบ้าง เริ่มตั้งแต่ด้านซ้ายสุดมีเสื้อผ้าชายหญิง สายตา หมวก ขนมจีนน้ำยามอญ ของกินเล่นพม่า อาหารทั่วไป เสื้อผ้าเด็ก อาหารพม่า เครื่องครัว รวมทั้งเครื่องเล่นอย่างปราสาทสไลเดอร์

ส่วนด้านขวาสุดก็มีขนมจีนน้ำยามอญ เสื้อผ้าชายหญิง เสื้อผ้าเด็ก อาหารทั่วไป รองเท้า เครื่องแต่งกายสตรี ของปิ้งย่าง ของเล่นเด็ก ของกินเล่น และผลไม้

ขณะที่ด้านหลังสุด(ซึ่งก็คือแผงลอยที่ต่อเนื่องจากเต็นท์ผ้าใบฝั่งขวาของทางเดินตรงเข้ามาในงาน)ก็มีเสื้อผ้าบุรุษ ขนมไทย เครื่องดื่มแช่เย็น ของกินเล่น ผลไม้ของปิ้งย่าง สายตา และของนึ่ง

ทั้งนี้ด้านหลังของโซนที่นั่งคนดูยังมีแผงลอยเป็นทางยาวประชิดหลังตัวคนดูด้วย แผงลอยดังกล่างก็เช่น รถพ่วงข้าง โต๊ะไม้ กระดาษ ตะกร้า และโต๊ะพับ ซึ่งมีทั้งชาวพม่าและคนไทยมาขาย ส่วนสินค้าก็เช่น เครื่องดื่ม หมากพม่า ของปิ้งย่าง ของกินเล่น ของเล่นเด็ก ผลไม้ชิ้น เครื่องดื่มแช่เย็น ไฟแช็ค ชากาแฟ และกระดาษรองพื้น

และที่ไม่ควรลืมก็คือ หางตั๋วที่เจ้าหน้าที่คืนให้เรา สามารถเก็บไว้ลุ้นชิงรางวัลสร้อยคอทองคำในวันสุดท้ายของงานได้ด้วย



อากาศเย็นๆช่วงปีใหม่ในอำเภอทองผาภูมิ อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปดูอะไรที่แตกต่างบ้าง พอดีนั่งรถผ่านวัดทองผาภูมิ เห็นป้ายหน้าวัดแจ้งว่ามีงานวัดพอดี แบบนี้ไม่ต้องพิรี้พิไรแล้ว ลงรถไปด้วยกัน แต่ก่อนจะเข้างาน เห็นจำนวนหางตั๋วราคา 30 บาทกระจายเต็มพื้นหน้าประตูวัด ตั้งเป้าไว้เลยว่า ความรื่นเริงนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่
บน - หลังจากจ่ายบัตรผ่านประตูและฉีกหางตั๋ว ก็ดิ่งเข้าวัดทองผาภูมิทันที วินาทีที่เห็นคลื่นมหาชนชาวพม่าในอำเภอทองผาภูมิและสังขละบุรีมาร่วมงาน ก็เป็นไปตามคาด เนื่องจากทางวัดมีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวพม่าอยู่ทุกปี ส่วนคนไทยในงานมีไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์จริงๆ
- เรามาเปิดพิธีด้วยของกินจากทางตรงช่วงแรกก่อน
ซ้ายบน – แม่ค้าร้านนี้มีส้มตำครบทุกอย่าง ทั้งตำไทย ตำปู และตำปลาร้า ขณะมุมไกลมีลูกชิ้นทอด ไส้กรอกทอด และเกี๊ยวทอดมาร่วมแผง
ขวาบน – ก็ตามที่ป้ายบอกเลย ทุกอย่างยำฟรี เริ่มตั้งแต่ไส้กรอกรมควัน ไส้กรอกชีส กุ้งหิมะ หมูยอ แฮม ลูกชิ้น จ๊อไก่ เต้าหู้ปลา ไปจนถึงปูอัด
ซ้ายกลาง - แมลงทอดได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ตอนนี้มีจิ้งหรีด แมงดา แมงกินูน รถด่วน ตัวไหม สะดิ้ง แมงตับเต่า เขียด และแมงกิซอน เลือกของโปรดได้แล้ว เดี๋ยวคนขายเหยาะซอสกับโรยพริกไทยให้ ที่ร้านยังมีขนมโป๊งเหน่งและไข่นกกระทาทรงเครื่องด้วย
ขวากลาง – งานมหรสพคืนนี้ยังอีกยาวไกล โดยเฉพาะลานลิเกพม่าด้านใน ป๊อบคอร์นหวานกินเพลินๆจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ซ้ายล่าง – หน้าโต๊ะนี้ยังมีของกินเล่นอีกเป็นตับ เริ่มจากขนมผิง ปลาอินทรีกรอบ หมึกกรอบ ข้าวตังหน้าหมูหยอง ขนมปังหน้าหมู ข้าวแต๋นรวมรส กล้วยทอดกรอบ มะขามแก้ว อาลัว ถั่วทอด สับปะรดกวน ถั่วกรอบแก้ว ทอฟฟี่ และกาละแม
ขวาล่าง – พี่ร้านนี้มีน้ำในขวดโหลดังนี้ น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว น้ำส้ม น้ำลำไย และน้ำบลูเบอร์รี




จากโหมดของกิน เรามุ่งสู่โหมดของใช้บ้าง
ซ้ายบน – ซุ้มนี้เอาใจสุภาพบุรุษกับเสื้อยืดลายต่างๆและกางเกงในแบบแพ็กกล่องสามตัว
ขวาบน – แผงนี้เน้นเสื้อเที่ยวนอกบ้านของเด็กเล็กเด็กโตทั้งชายและหญิง ขณะที่เสื้อหนาวของเด็กก็มีเช่นกัน
ซ้ายกลางบน – เพิงนี้ถือว่าอลังการกับรองเท้าชายหญิงและเด็ก เริ่มจากรองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะแบบหนีบและแบบสวม รวมถึงรองเท้าแฟชั่น
ขวากลาง – เจ้านี้เต็มไปด้วยกระเป๋าผู้หญิง มีทั้งกระเป๋าสะพาย กระเป๋าใส่ของ เป้แฟชั่น และกระเป๋าสตางค์ (ยกเว้นเป้เท่านั้นที่มีทั้งชายหญิง)
ซ้ายกลางล่าง – ความสวยเบรกไม่ได้เด็ดขาด แม่ค้าเลยยกทัพความสวยมาให้ชาวพม่านานับชนิด เช่น แป้งพัฟว่านหางจระเข้ แป้งพัฟกันแดด แป้งตลับเบบี้สกิน แป้งฝุ่นเนื้อบาง ลิปกลอส ลิปบาล์ม ลิปเนื้อมูส ขนตาปลอม ยาทาเล็บ สบู่นมผสมน้ำผึ้ง ครีมกันแดด ยาย้อมผม คอนซีเลอร์ใต้ตา แป้งคุมมัน ฯลฯ
ซ้ายล่าง – ตอนนี้เด็กสามคนกำลังเลือกของเล่นอยู่ ตัวอย่างบนแผงก็เช่น มอเตอร์ไซค์ รถแข่ง ชุดแต่งหน้า แต่งตัวเจ้าหญิง ปืน มินเนียน กีตาร์พร้อมไมโครโฟน ดาบกายสิทธิ์ ชุดตกปลา ชุดทำกับข้าว คันธนู ไดโนเสาร์ เครื่องครัว ตัวต่อ หุ่นยนต์ สไปเดอร์แมน ฯลฯ
ขวาล่าง - นับตั้งแต่เข้าประตูมา ถ้าเลี้ยวซ้ายเลียบกำแพงวัดทันที เราจะเห็นโซนเด็กมุมนี้ โดยมีปราสาทสไลเดอร์โดดเด่นมาแต่ไกล เด็กพม่าส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันสนุกสนาน ส่วนผู้ปกครองยืนเฝ้าไม่ห่าง ขณะที่พื้นล่างมีพ่อแม่กับเด็กรวมพลังลงสีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์และภาพกระดาษบนโต๊ะเตี้ยอยู่




ต่อไปเป็นทางตรงช่วงสองซึ่งมีระยะทางสั้นกว่าช่วงแรกและทางแคบกว่า
ซ้ายบน – ฝูงชนยิ่งดึกยิ่งหนาตาขึ้น ส่วนเต็นท์ซ้ายขวายังแน่นเหมือนเดิม ดูกันต่อว่ามีอะไรสะดุดตาบ้าง
ขวาบน – เจ้านี้มีของกินประทังความหิวดังนี้ ขนมจีนน้ำยา ตามด้วยกระเพาะปลาและก๋วยจั๊บ ส่วนด้านหลังมีเสื่อพร้อมที่นั่งให้พร้อม
ซ้ายกลางบน – สองถาดนี้คือผัดวุ้นเส้นโรยหน้ากุ้งแห้ง ถั่วงอก ไข่เจียว และผักชีกับยำรสแซ่บ
ขวากลาง – ป้าร้านนี้มีขนมไข่นกกระทา กล้วยทอด มันทอด ข้าวโพดคลุกเนย และข้าวเกรียบเป็นตัวเลือกต่อ
ซ้ายกลางล่าง – สำหรับคนรักของทอด พ่อค้ามีปีกไก่ทอด ตีนไก่ทอด และลูกชิ้นชุบแป้งทอดมาเสริม
- ต่อด้วยสินค้าอุปโภคเลย
ซ้ายล่าง – เต็นท์เสื้อผ้าของสาวๆมุมนี้มีความหลากหลายมาก เช่น เดรส เสื้อแขนกุด เสื้อยืด เอี๊ยม ฯลฯ อยากรู้ว่ามีอะไรอีก คงต้องเข้าไปดูเองแล้ว
ขวาล่าง - ใครอยากเรียนรู้วัฒนธรรมพม่า ก็ต้องแผงนี้กับเพลงและภาพยนตร์พม่า ไม่มีซับไตเติลใดๆช่วยคุณ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น แต่หนังบางเรื่อง ถ้าเนื้อหาไม่ซับซ้อน ก็เดาเรื่องได้อยู่ ส่วนเพลงก็ฟังกันเพลินๆ โยกคลอกันเบาๆ (จากภาพ ลูกค้าเข้าร้านนี้ตลอดจนหัวบันไดแทบไม่แห้ง)



ยังอยู่ทางตรงช่วงที่สอง
ซ้ายบน – เต็นท์นี้มีเนื้อที่แผงกว้างกว่าใครและมีชาวพม่าเข้าออกเป็นว่าเล่น สินค้าทั้งหมดเป็นเครื่องนอน เริ่มจากหมอนข้าง ผ้านวม เสื่อ หมอนขิด มุ้ง พรมเช็ดเท้า เสื่อน้ำมัน หมอนหนุน ไปจนถึงม่าน
ขวาบน – ปิดท้ายทางตรงช่วงที่สองกับแม่ค้าซุ้มนี้ที่มีเครื่องใช้อีกมาก เช่น วิทยุพกพา ลำโพงพกพา น้ำมันก๊าส สายชาร์จ ยูเอสบีแฟลชไดรฟ เมมการ์ด ไฟฉาย ปืนลม ตัวจับมือถือ นาฬิกาตั้งโต๊ะ ปลั๊กแปลงไฟ หลอดไฟ ดวงไฟประดับ พัดลมพกพา ฯลฯ
- นับจากนี้ เราเข้าสู่โซนไฮไลต์แล้ว นั่นคือ ลานรอบเวทีลิเกพม่าที่ชาวพม่ามารวมตัวกัน
ซ้ายกลางบน – บริเวณลานมหรสพที่ชาวพม่านั่งดูลิเก มีเต็นท์สินค้าล้อมรอบให้นักท่องเที่ยวเดินซื้ออีกมาก (จากภาพ เต็นท์ทางขวาที่เห็นจะลากยาวจากแผงขวามือของทางตรงช่วงที่สองเข้ามาจนถึงโซนนี้ แล้วต่อเนื่องลึกเข้าไปตามภาพ จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปจนสุดแผงที่ข้างเวทีลิเก (ซึ่งถ้ายืนตรงนี้ แล้วมองไปหน้าเวที แผงที่เลี้ยวซ้ายเข้าไปดังกล่าวจะถือว่าอยู่ขวามือของเวที ขณะที่แผงทางซ้ายของเวทีก็มีเช่นกัน ซึ่งแผงทางซ้ายของเวทีนี้ก็ล้อมลานคนดูเช่นกัน โดยเป็นแผงที่ต่อเนื่องมาจากแผงซ้ายมือของทางตรงช่วงที่สอง แล้วหักเป็นรูปตัวแอลเข้ามา) สำหรับคนเดินที่เห็นนี้จะอยู่หน้าแผงตามจุดที่กล่าวมาทั้งหมด โดยทางซ้ายที่โดนคนบังไปตอนนี้ยังมีแผงเตี้ยแบกะดินและรถเข็นติดกันหลายเจ้าเป็นทางยาวขนานทางเดินอีกหนึ่งแถว โดยแผงเหล่านี้จะหันหลังให้ลานคนดูลิเกพม่าและหันหน้าร้านเข้าทางเดินตามภาพนี้)
- คราวนี้ทีมงานขอทัวร์ข้าวของที่ล้อมลานคนดูลิเกเลย
ขวากลางบน – พ่อแม่ลูกในเพิงนี้ช่วยกันปรุงก๋วยเตี๋ยวน้ำ แห้ง และเย็นตาโฟ รวมทั้งอาหารตามสั่ง
ซ้ายกลางล่าง - กับข้าวทั้งหมดของโต๊ะนี้มีข้าวหมกไก่ ข้าวราดแกงไก่ แกงเนื้อ แกงเครื่องใน ขนมจีนน้ำยาหยวก โรตีจิ้มแกง และผัดข้าวซอย
ขวากลางล่าง – ขนมเบื้องกับขนมถังแตกเป็นของฮิตทุกเทศกาล
ซ้ายล่าง - เต็นท์นี้จำหน่ายสินค้าแฟชั่นเฉพาะหมวกและแว่นตา (แต่แว่นสายตาก็มี)
ขวาล่าง – ซุ้มนี้มีเสื้อผ้าชาวมอญแบบครบเซ็ต



 

แล้วก็มาถึงโซนแผงลอยเตี้ยที่อยู่ด้านหลังคนดูลิเกพม่าอย่างที่เคยเกริ่นไว้
ซ้ายบน - จุดเด่นอย่างหนึ่งของโซนนี้คือหมากพม่าที่ขายติดกันหลายเจ้า (คนขายต่างมีเชื้อสายพม่า พูดพม่าทั้งนั้น) สำหรับหมากพม่าที่จำหน่าย ผสมสูตรเรียบร้อย พร้อมเคี้ยวได้เลย (หรือแบบทำใหม่ก็มีเช่นกัน) นอกจากหมากพม่า ป้าเจ้าของร้านยังมีถั่วต้ม กระดาษรองนั่ง และข้าวหลาม
ขวาบน – แผงรถเข็นเจ้านี้กำลังบดหมึกแห้งให้เด็กๆอยู่ ทั้งนี้ยังมีตุ๊กตาเป่าฟองสบู่แขวนขายด้วย
ซ้ายกลาง – ใครอยากกินผลไม้ แม่ค้ารถเข็นก็มีเช่นกัน เริ่มจากสับปะรด มะม่วงมัน ฝรั่ง มันแกว องุ่นดอง พุทราดอง มะขามดอง แตงโม มะกอกฝรั่ง มะม่วงดอง และฝรั่งแช่บ๊วย
ขวากลาง – และโต๊ะเตี้ยมุมนี้มีเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นอีก สำหรับเมนูมีเนสกาแฟBlend&Brewและโอวัลตินซองพร้อมน้ำร้อน ที่เหลือคือ ชามะนาว กาแฟเย็น ชาเย็น เฮลซ์บลูบอยรสครีมโซดาและรสสละ โค้ก เอส(โคล่า น้ำเขียว น้ำส้ม) และน้ำดื่มน้ำทิพย์
- สำหรับแผงลอยต่างๆ ก็พอเห็นภาพแล้ว คราวนี้ไปดูบทสรุปที่เหลือสักหน่อย
ซ้ายล่าง - ระหว่างทางเดินช่วงแรก ขวามือจะมีพระพูดผ่านไมโครโฟนเป็นภาษาพม่า ซึ่งกำลังกล่าวถึงงานรื่นเริงครั้งนี้ รวมทั้งการทำบุญทำกุศลที่ตู้ด้านหน้า (มีคนพม่าทำบุญอยู่เป็นระยะ)
ขวาล่าง – และอย่างที่บอกไว้ว่า พอพ้นทางเดินช่วงแรกไป ก่อนจะเข้าช่วงสอง ซ้ายมือยังมีทางเลี้ยวเข้าสู่สังเวียนมวยด้วย คนพม่าเชียร์ไปก็เฮไป สนุกสนานกันถ้วนหน้า (โดยคนพากย์เป็นเสียงไทย ถ้าเป็นเสียงพม่า น่าจะได้อรรถรสยิ่งขึ้น)
ล่าง – ปิดท้ายด้วยลิเกพม่าจากเมืองย่างกุ้งที่ชาวพม่านั่งดูจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ค่ำยันเช้า และลานนี้ก็โอบล้อมด้วยแผงลอยและทางเดินที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ (จากภาพ ช่วงปีใหม่แบบนี้ ยามค่ำคืน อากาศหนาวเลี่ยงไม่ได้แน่ เสื้อหนาวควรพกมาด้วย แถมนั่งกลางแจ้ง เรื่องลมไม่ต้องเอ่ยเลย)



TODAY THIS MONTH TOTAL
190 3035 252253
Copyright : 2018 KarnDernTang.com ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาในเว็บไซต์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกโดยไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทรับทำเว็บไซต์ Design By cw.in.th

Scroll To Top