สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ (ถ้ำฤาษีสวรรค์และถ้ำลูกเสือ)

คำอธิบาย


สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์คือ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 80 พรรษา ตั้งอยู่ใกล้ศาลากลางจังหวัดพังงา อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา มีเนื้อที่ 162 ไร่ 294 ตารางวา ภายในสวนสาธารณะมีไม้ป่าดั้งเดิมและพันธุ์ไม้ที่ปลูกเพิ่ม รวมทั้งสระน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ชาวพังงาต่างมาใช้พื้นที่ในการออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีถ้ำให้เที่ยวชม

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณีวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นประธานเปิดสวนสาธารณะนี้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2532


สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์จังหวัดพังงามอบประสบการณ์แหวกแนวเกินใครเพราะทุกอย่าง“ทำได้”หมด คนพื้นที่จะมาออกกำลังกายก็“ทำได้” บุคคลทั่วไปจะมาเที่ยวถ้ำก็“ทำได้” ขาลุยจะมาปีนเขาก็“ทำได้” ใครจะมาให้อาหารลิงก็“ทำได้” แม้แต่รถเก๋งจะขับเข้ามาลอดถ้ำก็“ทำได้”อีก อะไรจะทำได้“เยอะ”ขนาดนั้น
- ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ก็เตรียมยืดเส้นยืดสายเข้าสู่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์จังหวัดพังงาเลย
บน – สวนสาธารณะแห่งนี้สวยและร่มรื่นในทุกฝีก้าว จึงได้รับความนิยมจากชาวพังงา
กลาง – จะหันมุมไหน ก็ชวนมองไปหมด (จากภาพ ตอนนี้เราเริ่มเห็นสาวพังงามาวิ่งเหยาะๆในสวนแล้ว ยิ่งแดดร่มลมตกเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นผู้คนมาออกกำลังกายมากเท่านั้น โดยเฉพาะวัยกลางคนและผู้สูงวัย ส่วนวัยรุ่นก็มานั่งเล่นเพลินๆในสวน)
ซ้ายบน – ทุกพื้นที่มีแต่ความเขียวสะอาดตา (จากภาพ ถ้าใครมาเที่ยวสวนสาธารณะแห่งนี้ เราจะเห็นเขาช้างหรือเขาช้างหมอบอยู่ในเฟรมด้วย)
ขวาบน – นอกจากการวิ่งและเดินแล้ว การออกกำลังกายผ่านฐานอุปกรณ์ต่างๆก็มีถึงสิบสองฐาน เช่น ฐานเดินทรงตัว ฐานถีบขอนไม้ ฐานไต่ลอด ฐานลุกนั่งคว่ำแอ่นหลัง ฯลฯ (จากภาพ ฐานนี้คือ ฐานวิ่งสลับฟันปลา)
- ได้เวลานักท่องเที่ยวเข้าถ้ำบ้าง ซึ่งในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์นี้มีทั้งหมดสองถ้ำ เรามาเริ่มถ้ำแรกก่อน คือถ้ำฤาษีสวรรค์ สำหรับถ้ำฤาษีสวรรค์มีปากถ้ำเข้าออกอยู่ 4 ทาง (สามปากถ้ำอยู่ฝั่งสวนสาธารณะ อีกหนึ่งปากถ้ำอยู่อีกด้านของภูเขาที่มีรูปปั้นฤาษีตรงทางเข้า) ถ้ำนี้ใช้เวลาเดินไม่นานก็ครบ ตอนนี้ทีมงานขอเข้าปากถ้ำที่มีฝูงลิงมาคอยต้อนรับแล้วกัน
ซ้ายล่าง - ปากทางเข้าถ้ำโซนนี้มีลิงแสมมากมาย ใครจะนำผลไม้ติดไม้ติดมือมาฝากก็ตามสะดวก
- จากนั้นก็ได้เวลาเข้าถ้ำฤาษีสวรรค์ เส้นทางนี้จะไปเจอกับปากถ้ำอีกด้านของเขา(ที่มีรูปปั้นฤาษีตั้งอยู่)
ขวาล่าง - ในถ้ำมีแสงแดดจากภายนอกส่องสว่างตลอด ส่วนทางเดินเป็นทางปูน เดินสบาย ระหว่างทางอาจมีน้ำขังอยู่ถ้ามีฝนตก (จากภาพ ทางเดินช่วงนี้มีผนังถ้ำอยู่ทางขวาและมีแอ่งน้ำอยู่ทางซ้าย)




ยังอยู่ในถ้ำฤาษีสวรรค์
ซ้ายบน – ลองมองแอ่งน้ำบ้าง ผนังเขาหินปูนขนาดใหญ่ฝั่งตรงข้ามเต็มไปด้วยซอกหลืบเหนือแอ่งน้ำตลอดทาง
ขวาบน – ทางเดินหลายจุดมีเพดานถ้ำค่อนข้างเตี้ย ใครตัวสูงหน่อยก็ต้องก้ม
ซ้ายกลาง – เมื่อเราเดินมาถึงรูปปั้นฤาษี จะมีทางเดินเข้าถ้ำอีกฝั่งต่อเพื่อเดินไปออกปากถ้ำอีกด้านของสวนสาธารณะ เส้นทางนี้จะมีไฟช่วยนำทางบ้างเนื่องจากแสงส่องไม่ถึง แต่เป็นเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น
ขวากลาง – ฝั่งนี้มีบันไดขึ้นจุดชมวิวด้วย ส่วนทิวทัศน์ก็เป็นเขาหินปูนที่โอบล้อมตัวเรา
- ได้เวลาอำลาถ้ำฤาษีสวรรค์ แล้วเดินตามถนนในสวนสาธารณะไปไม่ไกลเพื่อเข้าสู่ถ้ำที่สอง นั่นคือ ถ้ำลูกเสือ
ซ้ายล่าง – ตอนนี้ทีมงานอยู่ในถ้ำลูกเสือ แล้วหันกลับไปมองทางเข้าถ้ำ ซึ่งทางเข้าดูเล็กจิ๋วไปเลยเมื่อเทียบกับผนังภูเขาด้านบน ส่วนบรรยากาศในถ้ำเป็นเวิ้งเขาหินปูนโอบล้อมทั้งสี่ด้านและเปิดโล่งตรงกลาง (จากภาพ ถ้าทุกคนสังเกตอักษร“ซ้ายล่าง” เราจะเห็นเชือกยึดอยู่ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ผนังภูเขาหินปูนของถ้ำลูกเสือมีลักษณะเอื้อต่อการปีนผา จึงมีการยึดเชือกกรุยทางไว้ให้กับนักปีนผา และถ้าใครสังเกตตั้งแต่ปากถ้ำลูกเสือด้านนอก เราจะเห็นป้าย“จุดปีนเขา”นำมาเลย)

ขวาล่าง – หันกลับมาด้านนี้ ทีมงานสังเกตว่า ถ้าปีนป่ายก้อนหินใหญ่เบื้องหน้าขึ้นไป จะมีโพรงถ้ำเล็กๆอยู่ด้านบนด้วย เดี๋ยวเราขึ้นไปสำรวจกัน



ต่อเนื่องกับถ้ำลูกเสือ

ซ้ายบน – เมื่อปีนขึ้นมา นักท่องเที่ยวจะเห็นปากถ้ำเตี้ยๆเป็นเงาสีดำเหนืออักษร dernt ซึ่งเราต้องก้มเข้าไป
ขวาบน - แต่ก่อนจะมุดเข้าถ้ำ ลองมองผลงานที่ปีนขึ้นมาก่อน บรรยากาศจากปากถ้ำประมาณตึกหนึ่งชั้นทำให้เราเห็นเวิ้งเขาหินปูนตามนี้ (จากภาพ พื้นดินด้านล่างไปทางขวาก็คือ ทางเข้าถ้ำลูกเสือ)
ซ้ายกลาง - จากนั้นเข้าถ้ำได้เลย โพรงถ้ำนี้เป็นถ้ำลอยจากพื้นล่าง(ที่มีน้ำเจิ่งนอง)อยู่ ส่วนขอบหินตรงอักษร ntang ตลอดแนวสามารถเดินไปดูวิวตรงหินสีดำๆเหนืออักษร der ได้ แต่ต้องระวังเพราะทางแคบและอาจลื่น หากพลาดตกลงพื้นน้ำ ก็สูงประมาณตึกหนึ่งชั้น (ส่วนสะพานหินตรงอักษร arn ไม่แน่ใจว่ารับน้ำหนักได้แค่ไหน ไม่ควรเหยียบ) สำหรับรูสว่างทางขวาตรงอักษร m ลงมา เป็นรูขนาดเล็กเท่าตัวเด็กและลาดลงด้านล่าง แต่รูนั้นยังไม่แตะพื้นน้ำ ฉะนั้น ถ้าพ้นรูไป ก็ยังตกลงพื้นน้ำอยู่
ขวากลาง - เมื่อผ่านทางแคบมาตรงปากถ้ำ ด้านนอกจะเห็นต้นไม้ สนามหญ้า และเสียงรถ(บนถนนสาย 4311 ที่วิ่งไปมาระหว่างอำเภอทับปุดและอำเภอเมืองพังงา) แต่ถ้ามองกลับเข้าไปในถ้ำลอย นักท่องเที่ยวจะได้บรรยากาศอีกมุมมองตามภาพนี้ (จากภาพ แสงสว่างตรงอักษร“ขวา”ลงมา คือปากทางเข้าถ้ำลอยที่เราปีนขึ้นมานั่นเอง)
- อนึ่งมีสองเรื่องที่อยากเล่าเสริม เรื่องแรก ให้ดูภาพ“ซ้ายบน”ของภาพเซ็ตนี้ เหนืออักษร d ขึ้นไป เราจะเห็นแสงเล็กๆคล้ายพระจันทร์เสี้ยวอยู่เหนือใบไม้ มุมนั้นเป็นรูข้างผนังถ้ำลอย จริงๆรูจะใหญ่กว่าที่เห็น คนตัวเล็กหรือตัวผอมเข้าไปได้ รูข้างผนังถ้ำนี้สามารถพาเราขึ้นไปเหนือปากถ้ำลอย (ถ้าสังเกตภาพ“ซ้ายบน”อีกครั้ง ช่องสีดำตรงขอบภาพบนสุดเหนือปากถ้ำลอยหรือเหนืออักษร nt ขึ้นไปบนสุด ก็คือจุดที่เราจะโผล่ออกมา) จุดนั้นสามารถเหยียบหินทางขวาข้างๆของภาพขึ้นไปยืนเหนือปากถ้ำลอยเพื่อถ่ายรูปเวิ้งเขาหินปูนได้ (แต่ต้องระวังตอนเหยียบด้วย) หรือจะยืนถ่ายรูปตรงหน้าปากถ้ำลอยก็โอเคแล้ว (ส่วนภาพ“ขวาบน”นี้ ทีมงานยืนถ่ายจากหินเหนือปากถ้ำลอยเพื่อให้ได้มุมสูงสักหน่อย) อีกเรื่องคือ ในภาพ“ขวาบน” เราจะเห็นพื้นดินตั้งแต่เข้าถ้ำลูกเสือ ถ้านักท่องเที่ยวเดินไปทางซ้ายของภาพ จะมีถ้ำเพดานเตี้ยๆ(ที่ไม่ต้องก้มศีรษะ)อยู่ด้านใน ภายในถ้ำจะเห็นปากถ้ำอีกด้านด้วย แต่พื้นถ้ำมีน้ำฝนท่วมขัง
- ถ้ำฤาษีสวรรค์และถ้ำลูกเสือก็จบลงด้วยดี ตอนนี้ยังมีความพิเศษของสวนสาธารณะรอปิดท้าย
ซ้ายล่าง – รถยนต์สามารถวิ่งบนถนนเข้ามาในสวนสาธารณะได้ บริเวณนี้เป็นถ้ำลอด ถ้ำนี้เป็นถ้ำแฝดเล็กๆและมีลักษณะเป็นวงเวียน รถหลายคันต่างเข้ามาวนลอดถ้ำและถ่ายรูปกัน หรือถ้าใครอยากเดินลอดเล่นๆก็ตามสบาย
- ได้ข่าวว่า หลายคนเหงื่อไหลไคลย้อย ถ้าอย่างนั้นแวะเติมพลังดีกว่า
ขวาล่าง – จากประตูทางเข้าฝั่งถนนเพชรเกษม เมื่อเข้ามาในสวนสาธารณะ จะมีรถพ่วงข้างจอดจำหน่ายของกินอยู่ใกล้ๆ โดยเฉพาะตอนเย็นจะคึกคักเนื่องจากมีผู้คนเข้ามาใช้บริการในสวนเป็นจำนวนมาก สำหรับร้านค้าทั้งหมดเป็นรถพ่วงข้าง สินค้ามีแต่ของกินทั้งนั้น
รายการสินค้า - เริ่มจากผลไม้หั่นชิ้นมีมะดันดอง ชมพู่ แตงโม สับปะรด ฝรั่งสด มะม่วงแก้วขมิ้น มะม่วงดอง มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเปรี้ยว ฝรั่งแช่บ๊วย องุ่นดอง แอปเปิลแดง และมะยมดอง หมวดชากาแฟมีกาแฟเย็น โกโก้ นมสด นมเย็น แคนตาลูป ชาเย็น แดงโซดามะนาว เขียวโซดามะนาว ลิ้นจี่โซดา ชาเย็นไข่มุก โกโก้ไข่มุก ชาเขียวไข่มุก นมเย็นไข่มุก ชาดำเย็น สตรอว์เบอร์รีโซดา บลูฮาวายโซดา เฉาก๊วยนมสด เฉาก๊วยชาเขียว เฉาก๊วยกาแฟ และเฉาก๊วยชาเย็น น้ำอัดลมใส่แก้วมีโค้ก สไปรท์ แฟนต้า(น้ำเขียว น้ำแดง และน้ำส้ม) และเอสเพลย์(รสต่างๆคือ พิงก์บอม กามิกาเซ และเกรปเบอร์รี) ส่วนน้ำดื่มมีน้ำดื่มคริสตัล ต่อไปเป็นหมวดยำและตำอันได้แก่ ตำกุ้งสด ตำหอยดอง ตำไข่เค็ม ตำมะม่วง ตำถั่วผักยาว ตำซั่ว ตำไทยใส่ปู ตำไทยใส่ปลาร้า ยำสามกรอบ ยำวุ้นเส้น ยำเห็ดดำ ยำเล็บมือนาง ยำเห็ดขาว ยำซีฟู้ด ยำรวม ยำมาม่า ยำไข่แมงดา ลาบไก่ ลาบรวม ลาบวุ้นเส้น หมึกชุบแป้งทอด กุ้งชุบแป้งทอด ปลาดุกย่าง ไก่ย่าง และข้าวเหนียว เข้าสู่หมวดของกินเล่นอันได้แก่ น้ำแข็งไสใส่เครื่องต่างๆดังนี้ เฉาก๊วย ลูกชิด วุ้นมะพร้าวใบเตย ขนมปัง และบุกฟรุตสลัด พร้อมราดน้ำแดงและนม ถัดมาเป็นไอศกรีมแท้(จากผลไม้สด)ที่มีรสชาติต่างๆคือ ช็อกโกแลต มะม่วง มะพร้าว สตรอว์เบอร์รี และทุเรียน ปิดท้ายด้วยของทอดมีลูกชิ้นทอดและไส้กรอกทอด 


TODAY THIS MONTH TOTAL
152 4143 253361
Copyright : 2018 KarnDernTang.com ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาในเว็บไซต์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกโดยไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทรับทำเว็บไซต์ Design By cw.in.th

Scroll To Top