ลานตะบูน(หรือมหัศจรรย์ลานตะบูน)ที่บ้านท่าระแนะคือ พื้นที่ป่าชายเลนบริเวณโซนในที่มีแต่ต้นตะบูนขาวขึ้นเป็นวงกว้าง นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือจากบ้านท่าระแนะเข้าสู่ป่าชายเลนก่อน และเพียงไม่นาน เราก็จะพบกับรากของต้นตะบูนขาวที่เลื้อยกระจายไปทั่วบริเวณ กลายเป็นความแปลกตาและสวยงามไปพร้อมกัน

ชาวบ้านท่าระแนะที่มีอาชีพหาปูหาปลาต้องนั่งเรือผ่านป่าชายเลนอยู่แล้ว ทุกคนเห็นลานตะบูนนี้มาตั้งแต่เกิดเสมือนเป็นเส้นทางกิจวัตรและคุ้นเคยจนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในอดีต แม้แต่ชาวบ้านท่าระแนะหลายคน ถ้าไม่ได้ประกอบอาชีพนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้จักเนื่องจากป่าตะบูนแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในป่าชายเลนลึกเข้าไป
- จากท่าเทียบเรือบ้านท่าระแนะ นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือผ่านป่าลำพู ป่าโกงกาง ป่าจาก จนมาถึงป่าตะบูน
บน – ลานตะบูนเป็นโซนที่มีแต่ต้นตะบูนขาวเติบโตและรากของต้นตะบูนจะเลื้อยชอนไชบนผิวดินเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เกิดทัศนียภาพแปลกตาและกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวในทันควัน ส่วนแสงแดดที่กระทบลานตะบูนในแต่ละช่วงก็ให้อารมณ์ที่ต่างกันด้วย (จากภาพ ต้นตะบูนเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กและกลาง สูง 8-20 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสั้น แตกกิ่งใกล้โคนต้น มีพูพอนแผ่ออกคดเคี้ยว ต่อเนื่องกับรากหายใจที่แบนคล้ายแผ่นกระดาษ เปลือกเรียบบางสีเหลืองแต้มเขียวอ่อนหรือสีน้ำตาลอ่อน ถึงน้ำตาลแกมชมพู ลักษณะคล้ายเปลือกต้นฝรั่งหรือต้นตะแบก เปลือกจะหลุดออกเป็นแผ่น รูปทรงไม่แน่นอน ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ไม่มีใบยอด เรียงสลับ ใบย่อยมักมี 1-2 คู่ เรียงตรงกันข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย แผ่นใบรูปไข่กลับ หรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับขนาด 2-5 x 7-14 เซนติเมตร แผ่นใบสมมาตรกัน ปลายใบกลม ฐานใบรูปลิ่มใบ ดอกออกเป็นช่อที่ง่ามใบ ช่อดอกมีลักษณะแบบช่อแยกแขนง ยาว 3-8 เซนติเมตร แต่ละช่อมี 8-20 ดอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 เซนติเมตร เป็นดอกแยกเพศ ก้านดอกย่อยยาว 0.4- 1 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ยาว 0.2 เซนติเมตร กลีบดอก 4 กลีบ ไม่ติดกัน สีขาวครีม เกสรเพศผู้ 8 อัน ดอกมีกลิ่นหอมตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ ผลมีลักษณะกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 15-20 เซนติเมตร แบ่งเป็น 4 พูเท่าๆกัน แต่ละผลมี 7-17 เมล็ด ลักษณะโค้งนูนหนึ่งด้าน กว้าง 6-10 เซนติเมตร ผลแก่มีสีน้ำตาลแดงคล้ายผลทับทิม ออกดอกและผลตลอดปี ประโยชน์ของต้นตะบูนขาวคือ รักษาอาการท้องเสีย เป็นบิด รักษาแผลภายใน แก้โรคอหิวาต์ อาเจียนเป็นเลือด แผลสด เป็นหนอง แผลบวมฟกช้ำดำเขียว และแก้ไอ)

ลานตะบูนที่นี่ไม่ใช่ป่าปลูก แต่เป็นป่าชายเลนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจริงๆ ทุกอย่างมีมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปีแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาเข้าไปเจอป้าย"มหัศจรรย์ลานตะบูน"ดีกว่า
บน – ลานตะบูนในยามฟ้าสว่าง (จากภาพ บริเวณนี้มีต้นตะบูนขึ้นมากมาย)
กลาง – ลานตะบูนในยามที่ไร้แสง (จากภาพ บริเวณนี้มีต้นตะบูนขนาดใหญ่ขึ้นอยู่สามสี่ต้น)
ซ้าย – ลานตะบูนกับแสงแดดยามเย็น (จากภาพ ที่ผ่านมา เราเห็นแต่ราก คราวนี้มาชมต้นตะบูนขาวบนลานตะบูนกันบ้าง)
ขวาบน – รากตะบูนขนาดเล็กและใหญ่พันเกี่ยวเลี้ยวลดไปมาอยู่บนผิวดิน
- นอกจากลานตะบูนแล้ว ร้านค้าจำหน่ายสินค้าก็รอต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย
ขวาล่าง - ก่อนทางลงท่าเรือมีร้านค้าที่สร้างเป็นแถวยาวเลียบริมคลองหันหน้าเข้าถนน ในแถวยาวนี้แบ่งเป็นล็อกๆของแต่ละร้านจำหน่ายสินค้า ซึ่งมีทั้งของกินของใช้และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
รายการสินค้า - เริ่มจากของใช้ เช่น เสื้อผ้าสตรี ซิสต้าอีอีครีม(แตงโม) ด้ามโกนหนวด(ยี่ห้อซายูและยี่ห้อยิลเล็ตต์) ครูเซ็ตโปรคัลเลอร์ เทนโซพลาส แป้งเด็กแคร์ ครีมอาบน้ำ(ยี่ห้อต่างๆคือ ลักซ์ บีไนซ์ และโชกุบุสซึโมโนกาตาริ) ซันซิล(สีชมพูและสีเขียว) ยาสีฟันคอลเกต แป้งมองเล่ยะ ทิชชู่สก็อต แปรงสีฟัน ไฮเตอร์(สูตรซักผ้าสีและสูตรซักผ้าขาว) บรีส ไบก้อน ดาวน์นี่ ถุงอเนกประสงค์ หนังยาง ฯลฯ ส่วนสินค้าบริโภค(ทั้งยาและของแห้งของชำ)ก็เช่น กาวิสคอน คาร์เนชั่น ปลากระป๋อง(ยี่ห้อต่างๆคือ โรซ่า สามแม่ครัว ปุ้มปุ้ย และมงกุฏทะเล) เฮลส์บลูบอย(รสสละและรสมะลิ) ยาหอมเทพฉัตร ผักกาดดองกระป๋อง ไข่ไก่ โอวัลตินซอง ไมโลซอง ฯลฯ ขนมขบเคี้ยวมีฟูชิรสดั้งเดิม โก๋แก่รสกะทิ โตโร่รสคาราเมล คอนเน่ รวยเพื่อน ซูเปอร์สตาร์สแนปส์ แคลชีสรสชีส ฮานามิรสดั้งเดิม ช็อกโกแบร์รสช็อกโกแลต โอริโอ บิ๊กท็อปคัลเลอร์ป๊อป บิสชิน โกช็อกโกโรลส์รสช็อกโกแลต และเลย์(รสต่างๆคือ โนริสาหร่าย ไข่เค็ม เอ็กซ์ตราบาร์บีคิว และมันฝรั่งแท้) ของกินเล่นอื่นๆยังมีถั่วปากอ้า ข้าวเกรียบว่าว ขนมปังสอดไส้ใบเตย และขนมปังหน้าเนยน้ำตาล ขณะที่เครื่องดื่มในตู้เย็นก็เช่น เป๊ปซี่ โค้ก แฟนต้า(น้ำเขียวและน้ำแดง) เบอร์ดี้โรสบัสตา เนสกาแฟเอสเพรสโซโรสต์ สไปรท์ แลคตาซอย โอวัลติน ชเวปส์ เรดดี้บูตรสโกจิเบอร์รี C-Vitt(รสออเรนจ์และรสทับทิม) สปอนเซอร์ โออิชิรสน้ำผึ้งมะนาว คาลพิสแลคโตะ ดัชมิลล์โฟร์อินวัน น้ำผลไม้ดีโด้รสองุ่น น้ำมะพร้าวขวด ฯลฯ สำหรับสินค้าท้องถิ่นก็มีหมวกคันทรง ข้าวหมาก กะปิ กุ้งแห้ง หมึกแห้ง น้ำพริก และน้ำปลา