ที่มาของชื่อ“เกาะญี่ปุ่น”มาจากสองเรื่องเล่าคือ ในอดีตเคยมีชาวญี่ปุ่นมาเลี้ยงหอยมุกบนเกาะนี้ ส่วนอีกเรื่องคือ ชาวญี่ปุ่นได้ใช้ที่นี่ประกอบอาหารสำหรับส่งเสบียงให้แก่ทหารของตนเองที่กำลังออกรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อนึ่ง นอกจากชื่อเกาะญี่ปุ่นแล้ว ก่อนหน้านี้เกาะนี้เคยมีชื่อเรียกว่า"เกาะมันมารง"เพราะมีเรื่องเล่าว่า ชาวมอร์แกนเคยมาเก็บมันบนเกาะแห่งนี้
แม้เม็ดทรายไม่ได้นุ่มละมุนทั้งหาด แต่ธรรมชาติก็ขอแก้ตัวกับเรื่องราวต่อไปนี้
บน – สีน้ำทะเลของเกาะญี่ปุ่นมองเพลินตาดี เขียวมรกตเบาๆ นอกจากนี้ เกาะญี่ปุ่นยังมีแหลมที่ยื่นออกมาในยามน้ำลดแบบนี้ด้วย ยิ่งถ้าลดเท่าไหร่ เรายิ่งเห็นหาดทรายโผล่ขึ้นมามากเท่านั้น จึงเป็นจุดเช็กอินของนักท่องเที่ยวที่มายืนแตะน้ำทะเล แล้วแชะภาพบนแหลม (จากภาพ แหลมมุมนี้อยู่ถัดมาอีกฟากจากภาพ“บน” คือไปทางขวาเลยขอบภาพออกไปนั่นเอง)
ซ้ายบน – ทีมงานขอแอบมาชมน้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่งสักหน่อย ใสแบบสอบผ่านสบายๆ
ขวาบน – มุมประกอบอาหารที่ทหารญี่ปุ่นทำขึ้นเพื่อใช้เป็นเสบียงในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง (จากภาพ ถ้าเรามองภาพ“บน”อีกครั้ง เหนืออักษร tang.com ขึ้นไป จะเห็นกลุ่มต้นสนอยู่ ใต้ร่มเงาของต้นสนนั้นก็คือตำแหน่งนี้)
- ทีนี้ทีมงานเห็นเนินเขาไม่สูงมากนัก บนเนินเขาเป็นป่าช่วงสั้นๆ ก็เลยลองเดินข้ามเขาไปอีกฟากของเกาะดู แล้วเราก็พบหาดต่อมา
ซ้ายล่าง – หาดหิน (จากภาพ หาดนี้สวยจัง)
- จากนั้นก็เดินเลาะหาดไปเรื่อยๆ ก็จะพบเขาหินเตี้ยๆเล็กๆอีกลูกอยู่ทางทิศใต้ของเกาะญี่ปุ่น ในยามน้ำลดจะมีหาดที่เดินเชื่อมถึงกันระหว่างสองเกาะ แต่ในยามน้ำขึ้น หาดจะโดนท่วมไป แต่ก็สามารถเดินได้อยู่
ขวาล่าง – ลองขึ้นมาเดินบนเขาเล่นๆ เขาลูกนี้มีหญ้าแห้งขึ้นหลายจุด และภาพนี้คือ ทีมงานมองย้อนกลับไปยังเกาะญี่ปุ่นอีกครั้ง ถ้ามองทางขวา เราจะเห็นเรือจอดอยู่ไกลๆที่แหลมหาดทราย แต่ถ้ามองไปฝั่งซ้าย ด้านนี้ก็คือหาดหินที่เพิ่งเดินผ่านมา (จากภาพ ถ้าเรายืนบนเขาหิน แล้วไม่หันไปทางเกาะญี่ปุ่น แต่หันไปด้านหลังแทน นักท่องเที่ยวจะเห็นทะเลมุมไกลของอำเภอคุระบุรี)
TODAY | THIS MONTH | TOTAL | |||
173 | 1312 | 286176 |